บทที่ 7 จุดเริ่มต้นของความบาดหมาง(จบ)

“วิว หมอกขอโทษ” สินธรบอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

“ออกไป! ต่อไปนี้วิวจะคิดว่าไม่เคยมีเพื่อนชื่อหมอกอีก”

“วิว...” สินธรพูดไม่ออก ได้แต่ยืนมองเด็กสาวที่เอาแต่ยืนร้องไห้อยู่แบบนั้น ใจเขาอยากกอดเธอ อยากขอโทษ แต่มันคงไม่มีประโยชน์ เพราะเธอคงไม่ให้อภัยเขา

“ได้ หมอกไปก็ได้ แต่ก่อนที่หมอกจะไป วิวฟังคำพูดของหมอก    ไว้นะ ไม่มีใครรักวิวเท่าหมอกอีกแล้ว ไอ้เผ่าที่วิวรักมันนักหนา มันแอบหมั้นมาสามปีแล้ว วิวรู้บ้างไหม เรื่องสำคัญแบบนี้ มันยังไม่บอกวิวเลย แล้วที่หมอกไม่บอก ก็เพราะไม่อยากทำให้วิวเสียใจ เห็นไหมคนที่วิว   คิดว่าดีที่สุด มันยังโกหกวิวเลย ทีนี้รู้หรือยังว่าเวลาที่ถูกคนที่เรารักมองข้าม มันเจ็บแค่ไหน” สินธรพูด พร้อมกับปีนหน้าต่างออกไป

ภัทรทิรายังคงร้องไห้อยู่แบบนั้น และที่ทำให้เธอเสียใจมากที่สุด  ก็คือ... เผ่าเพชรหมั้นแล้วอย่างนั้นหรือ แล้วเขาหมั้นกับใคร ถ้าคำพูดของสินธรเป็นเรื่องจริง ทุกคนก็ใจร้ายกับเธอมาก สามปีเลยเหรอที่     คนพวกนั้นจงใจปิดบังเธอ เขาทำแบบนั้นทำไม ถ้าเผ่าเพชรหมั้นจริง ๆ เขาก็คงไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลยสินะ

“ไม่จริงใช่ไหมเผ่า เผ่ายังไม่ได้หมั้นใช่ไหม” มือบางปาดน้ำตา เมื่อโทรศัพท์บ้านถูกยกขึ้นมาแนบหู แล้วกดเบอร์ปลายสายรัวเร็ว        ธาวินทร์ต้องรู้เรื่องนี้ เพราะถ้าสินธรรู้คนอื่นก็ต้องรู้

เหมือนฟ้าฟาดลงกลางใจ เมื่อธาวินทร์ยอมรับว่าเรื่องที่เผ่าเพชรหมั้นคือเรื่องจริง ธาวินทร์อธิบายว่าเรื่องนี้ทำกันเงียบ ๆ รู้กันเฉพาะ    คนในครอบครัว คนนอกยังไม่มีใครรู้

หลังจากวางสายจากธาวินทร์ ภัทรทิราร้องไห้อย่างหนัก อะไรคือคนนอก อะไรคือคนในครอบครัว ธาวินทร์รู้ สินธรรู้ แต่เธอไม่รู้ หมายความว่าเธอไม่ใช่คนในครอบครัวของพวกเขาอย่างนั้นหรือ ที่ผ่านมาลุงเพชรดูแลเธอกับน้องเป็นอย่างดี ปู่เผ่าก็รักเธอกับภูผาเหมือนลูกหลาน แล้วสิ่งที่ได้รับรู้ตอนนี้คืออะไร ความเสียใจถาโถมเข้ามาในหัวใจ ความเจ็บปวดที่ได้รับ มันเกินกว่าที่เด็กอย่างเธอจะรับไหว ต่อไปเธอจะเชื่อใจใครได้อีก โลกใบนี้มีใครที่รักเธอกับน้องจริง ๆ บ้าง

“กรี๊ดดด!”

ร่างของเด็กสาวล้มทั้งยืน เมื่อเจ้าของร่างร้องไห้จนหมดสติ

โลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับเธอจริง ๆ

ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ คำนี้คงไม่มีอยู่จริง

เพราะในชีวิตของภัทรทิรา ความสวยงามเป็นอย่างไร เธอก็แทบจะ      ไม่รู้จักหลังจากเหตุการณ์วันนั้น สินธรก็ไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีกเลย   เขาหายไปไหนเธอไม่สนใจ เพราะสิ่งที่เขาทำกับเธอมันมากเกินไป   แรก ๆ เผ่าเพชรกับธาวินทร์ก็สงสัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องของสินธร  ก็ถูกลืมไปตามกาลเวลา เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตทุกวัน

ต่อมาภัทรทิราก็ได้รู้ว่าเผ่าเพชรหมั้นกับลูกสาวคนโตของ       คุณประกร และที่ทำให้เธอเจ็บมากก็คือ เผ่าเพชรขอหมั้นกับเด็กคนนั้น ตั้งแต่เธอลืมตาดูโลกได้สามวัน คงไม่มีอะไรเจ็บไปกว่านี้อีกแล้ว     เพราะตั้งแต่โตมา ชีวิตของภัทรทิราก็มีเผ่าเพชรเป็นศูนย์กลางมาตลอด เมื่อมันเป็นแบบนี้ เธอก็ต้องทำใจยอมรับ แล้วถอยออกมา เพราะ  อย่างน้อย ๆ ก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้

เมื่อจบชั้น ม.3 ทุกคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง เผ่าเพชรกับธาวินทร์ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ในขณะที่ภัทรทิรายังต่อ ม.ปลาย     ที่โรงเรียนเดิม ส่วนสินธรนั้น เธอไม่รู้ว่าเขาไปเรียนต่อที่ไหน เพราะไม่มีชื่อเขาลงเรียนต่อ ม.ปลาย ที่นี่

น่าแปลกที่ภัทรทิราก็เข้านอกออกในไร่สายธารแทบจะทุกวัน    แต่เธอไม่เคยเห็นเขา เขาคงทำตัวให้หายไปจากชีวิตเธอแล้วจริง ๆ    ช่วงนี้ภัทรทิราต้องเข้ามาเรียนรู้งานกับน่านนที อีกหน่อยท่านจะวางมือ เพราะสุขภาพของท่านไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ภัทรทิราจึงต้องมาเรียนรู้งานเอาไว้ เธอเรียนเกษตร งานแค่นี้จึงไม่ยากอะไร

จากเด็กสาวในวันนั้น ก้าวเข้าสู่วัยสาวเต็มตัว ภัทรทิราในวัย      ยี่สิบสี่ เติบโตมาอย่างเข้มแข็ง เพราะต้องดูแลรับผิดชอบงานในฟาร์มทุกอย่าง ในขณะที่น่านนทีกับเพชรที่พึ่งหลักของเธอก็เสียชีวิตลง       ในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอ สินธร เผ่าเพชร ต่างก็เป็นลูกกำพร้าเหมือนกัน เผ่าเพชรกลับมาบริหารงานในไร่เมื่อสิ้นคุณเพชร ไม่นานไร่แสงตะวันกับโรงแรมในเครือแสงตะวันก็เจริญก้าวหน้า เพราะได้ผู้บริหารที่เก่งและมีความสามารถรอบด้าน ในขณะที่ไร่สายธารกำลังระส่ำระสาย จนถึงขั้นวิกฤต คนงานบางส่วนทยอยลาออก เพราะเบื่อกับระบบงาน

เมื่อผู้บริหารคนใหม่เข้ามาทำงาน

มารตีได้สิทธิ์ในไร่สายธาร เพราะมีทะเบียนสมรส ช่วงเวลาไม่ถึงห้าปีที่นางเข้ามาบริหาก็ทำให้ไร่สายธารตกต่ำจนแทบจะสิ้นชื่อ

ภัทรทิรา ธาวินทร์ และเผ่าเพชร เอาเรื่องนี้มาปรึกษากันบ่อย ๆ พวกเขาได้แต่มองไร่สายธารอยู่ห่าง ๆ เพราะคนที่นั่นไม่ต้อนรับ       พวกเขา

คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ภัทรทิรานอนไม่หลับ หลังจากตรวจบัญชีรายรับรายจ่ายของฟาร์มเสร็จแล้ว หญิงสาวก็พาตัวเอง

มายืนรับลมที่หน้าต่างบานนี้เหมือนเช่นทุกวัน น่าแปลกที่เวลา

ก็ผ่านมาหลายปี บ้านหลังนี้ถูกปรับปรุงไปหลายครั้ง แต่เธอก็ยังปล่อยหน้าต่างบานนี้ให้อยู่ในสภาพเดิม

ปีนี้ฟาร์มเธอให้ผลผลิตดี ได้กำไรคุ้มค่า ถ้าเป็นแบบนี้ไปจนถึงสิ้นปี เธอต้องได้ไถ่ที่คืนจากไร่สายธารแน่นอน นี่ยังเป็นอีกปัญหาที่ภัทรทิราหนักใจ เพราะโฉนดที่ดินของเธอยังอยู่ที่นั่น สิ้นน่านนทีไปแล้ว สินธรก็ไม่อยู่ เธอกลัวมารตีจะเอาโฉนดที่ดินของเธอไปขายทอดตลาด เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเท่ากับว่าที่เธอทำมาทั้งหมดสูญเปล่า เพราะไม่สามารถรักษาขวัญใจฟาร์มเอาไว้ได้

เงินสี่สิบล้าน ถ้าเธอตั้งใจเก็บจริง ๆ มันก็เก็บได้ แต่ตอนนี้เธอต้องเอาเงินส่วนหนึ่งมาลงทุน และแบ่งอีกส่วนหนึ่งไว้รักษาภูผา           ที่ตอนนี้นอนติดเตียง เพราะผลผ่าตัดครั้งสุดท้ายไม่เป็นอย่างที่หวัง

ดวงตากลมโตมองออกไปยังทิศที่ติดกับไร่สายธาร มองเส้นทางเล็ก ๆ ที่ถูกปล่อยให้รกร้าง เพราะคนที่เคยเดินมาขวัญใจฟาร์มได้หายสาบสูญไปจากชีวิตเธอนานแล้ว

“อยู่ไหนนะหมอก รู้ไหมว่าสายธารกำลังแย่ กลับมาเถอะนะ     วิวคิดถึงหมอกเหลือเกิน” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตา เมื่อภาพในวันนั้นลอยกลับเข้ามาในหัว คำพูดของเธอแค่ไม่กี่คำกลับทำให้ชีวิตของ     ใครบางคนพังลง สินธรหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันนั้น เขาทิ้ง         ทุกอย่าง แม้กระทั่งอนาคตของตัวเอง เพียงเพราะคำพูดที่ไม่ทันคิด   ของเธอ

หญิงสาวแหงนมองดวงจันทร์ แล้วถามหาชายหนุ่ม เขาทำให้เธอรู้สึกผิด ตลอดเวลาที่สินธรหายไป ไม่มีคืนไหนที่ภัทรทิราจะนอนหลับได้เต็มตาเลยสักคืน

ถึงวันนั้นเธอจะโมโหเขามาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภัทรทิรา

ก็รู้ว่าตัวเองก็มีส่วนผิด ผิดที่พูดกับสินธรแบบนั้น ผิดที่ไล่เขาไป และ   ผิดที่พูดว่าจะลืมว่าเคยมีเขาเป็นเพื่อน

“หมอก... วิวขอโทษ” เป็นอีกครั้งที่เธอเอ่ยปากขอโทษเขา       ผ่านดวงจันทร์และแสงดาว ได้แต่ฝากสายลมที่ผัดผ่านมาให้หอบคำพูดของเธอไปบอกให้เขาได้รับรู้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป